Skip to main content

วิธีการกดสิวที่ถูกต้อง!!

 วิธีการกดสิวที่ถูกต้อง!!

ชนิดสิวมีอะไรบ้าง ?? และวิธีกดอย่างถูกวิธี


การมีสิวบนใบหน้าหรือร่างกายอาจทำให้เราเสียความมั่นใจในตัวเอง และการกดสิวเป็นวิธีที่หลายคนใช้เพื่อลดสิวให้หายเร็วขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การกดสิวอย่างไม่ถูกต้องสามารถทำให้สิวอักเสบหรือเกิดรอยแผลเป็น ดังนั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า การกดสิวสามารถใช้ร่วมกับการทายาเพื่อรักษาสิวได้อย่างไร และวิธีการทำอย่างปลอดภัย


ชนิดสิวมีอะไรบ้าง ?? และวิธีกดอย่างถูกวิธี




**สิวหัวดำ: วิธีการกดอย่างถูกต้อง**

สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขน หากต้องการกดสิวหัวดำ คุณควรใช้เครื่องมือสำหรับกดสิวโดยเฉพาะ โดยวิธีที่ถูกต้องคือ:


- ทำความสะอาด: ล้างมือและหน้าให้สะอาดก่อนทำการกดสิว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ


- ใช้เครื่องมือสะอาด: เครื่องมือควรทำจากสแตนเลสและผ่านการฆ่าเชื้อ เช่น การล้างด้วยแอลกอฮอล์


- ใช้ความกดดันเบาๆ: วางเครื่องมือเหนือสิวหัวดำ แล้วค่อยๆ กดเบาๆ จนสิวออกมา อย่ากดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยแผลเป็น


**สิวอักเสบ: ควรหลีกเลี่ยงการกด**

สิวอักเสบมักมีลักษณะเป็นสิวแดงที่มีอาการเจ็บเมื่อสัมผัส การกดสิวอักเสบเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือแผลเป็น แต่ถ้าจำเป็นต้องกด คุณควรทำตามขั้นตอนนี้:

- ทำความสะอาดอย่างเข้มงวด: ล้างมือและใบหน้าให้สะอาดมากๆ

- ใช้เข็มที่ฆ่าเชื้อแล้ว: ถ้าจำเป็นต้องเปิดหัวสิว เพื่อให้หนองออกมา ให้ใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อ

- กดเบาๆ และช้าๆ: ใช้ความกดดันเล็กน้อยและระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ


                            

**สิวอุดตัน: ทำอย่างไรให้ปลอดภัย**

สิวอุดตันเป็นสิวที่ไม่มีหัว ซึ่งอาจเป็นสิวหัวขาวหรือสิวที่อยู่ลึกในรูขุมขน การกดสิวอุดตันต้องระมัดระวัง เพราะการกดผิดวิธีอาจทำให้เกิดอักเสบได้ วิธีการกดสิวอุดตันที่ถูกต้องคือ:

- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเปิดรูขุมขน: เช่น เรตินอยด์ หรือ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เพื่อช่วยให้สิวหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น

- ใช้เครื่องมือสำหรับสิวอุดตัน: เครื่องมือที่มีหัวแหลมและหัวกดสิว จะช่วยให้กดสิวได้ง่ายขึ้น

- หลีกเลี่ยงการกดด้วยมือ: การใช้มือกดสิวอุดตันอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือแผลเป็น


การดูแลหลังจากกดสิว

- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น เจลที่มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ หรือสารที่ช่วยลดอาการแดงและบวม

- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่กดสิว: เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง

- ใช้ครีมกันแดด: ผิวที่เพิ่งกดสิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น การใช้ครีมกันแดดจะช่วยป้องกันการเกิดรอยด่างดำ

                                      

การทายาร่วมกับการกดสิว: วิธีการที่ถูกต้อง

- ใช้ยาทาหลังจากกดสิว: เมื่อสิวถูกกดออก ควรใช้ยาทาเพื่อลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ช่วยลดการอักเสบหรือช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

- การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์: หลังจากการกดสิวและทายา ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อป้องกันการแห้งของผิว



ทำไมการกดสิวอย่างไม่ถูกต้องถึงเป็นปัญหา?

- การติดเชื้อ: ถ้าคุณใช้มือที่ไม่สะอาดหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาด การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้

- รอยแผลเป็น: การกดสิวอย่างรุนแรงอาจทิ้งรอยแผลเป็นที่ยากจะรักษา

- สิวอักเสบ: การกดสิวที่ยังไม่พร้อมอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น



เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ?

- สิวไม่หายหลังจากกด: ถ้าสิวไม่หายและยังอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

- เกิดรอยแผลเป็น: ถ้าคุณเริ่มเห็นรอยแผลเป็นหรือรอยดำหลังจากกดสิว ควรหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

- เกิดการติดเชื้อ: ถ้ามีอาการบวม แดง หรือมีหนองออกมาจากบริเวณที่กดสิว ควรไปพบแพทย์ทันที



ดั้งนั้น การกดสิวอาจดูเป็นวิธีแก้ไขปัญหาสิวที่รวดเร็ว แต่ต้องระมัดระวังอย่างมาก การกดสิวที่ไม่ถูกต้องสามารถทำให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้น ควรใช้วิธีการที่ปลอดภัยและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น




คำถามที่พบบ่อย (FAQs):


1.การกดสิวเองปลอดภัยไหม?

ปลอดภัยหากคุณใช้วิธีที่ถูกต้องและอุปกรณ์ที่สะอาด แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดสิวที่อักเสบ


2.ยาทาสำหรับสิวมีแบบไหนบ้าง?

มีหลายชนิด เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เรตินอยด์ และยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย


3.ควรทำอย่างไรหลังจากกดสิว?

ควรใช้ยาทาหรือแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดบริเวณที่กดสิวและใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อป้องกันการแห้งของผิว


4. การทายาร่วมกับการกดสิวมีประโยชน์ไหม?

มีประโยชน์ เพราะช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย


5.การกดสิวเองควรทำเมื่อไหร่?

ควรกดเมื่อสิวมีหัวหนองและพร้อมที่จะถูกกด ส่วนสิวที่อักเสบควรหลีกเลี่ยงการกด


6.ใช้เครื่องมือแบบไหนสำหรับกดสิว?

ควรใช้เครื่องมือที่ทำจากสแตนเลสหรือวัสดุที่ปลอดเชื้อ


7.ถ้าสิวไม่ดีขึ้นหลังจากกด ควรทำอย่างไร?

ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม


8.ควรหลีกเลี่ยงการกดสิวประเภทใด?

ควรหลีกเลี่ยงการกดสิวที่อักเสบหรือสิวที่ไม่มีหัว


9.วิธีการทายารักษาสิวที่ถูกต้องเป็นอย่างไร?

ควรทายาตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และหลีกเลี่ยงการทายามากเกินไป


10.ถ้ามีการติดเชื้อหลังจากกดสิว ควรทำอย่างไร?

ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาการติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจาย


Comments

Popular posts from this blog

ทำไมโกนหนวดแล้วหนวดแข็งขึ้น ??

  ทำไมโกนหนวดแล้วหนวดแข็งขึ้น ?? การโกนหนวดเป็นสิ่งที่หลายคนทำเป็นประจำเพื่อให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบ แต่เคยสังเกตไหมว่า บางครั้งเมื่อเราโกนหนวดแล้ว หนวดกลับแข็งขึ้นและดูหนาขึ้นกว่าเดิม? นี่คือความรู้สึกที่หลายคนรู้สึกว่ามันจริงหรือเป็นเพียงความเชื่อ เรามาดูกันว่าทำไมโกนหนวดแล้วหนวดแข็งขึ้นจริงไหม? ความเชื่อที่ว่าโกนหนวดทำให้หนวดแข็งขึ้น ความเชื่อนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อเราสัมผัสกับหนวดที่เพิ่งถูกโกน มันอาจจะให้ความรู้สึกที่แข็งและหนากว่าหนวดที่ยาวแล้ว นั่นเป็นเพราะเมื่อเราโกนหนวด เราโกนเฉพาะส่วนที่อยู่นอกผิวหนัง ทำให้ปลายของหนวดมีลักษณะที่คมและตรงกว่าหนวดที่งอกออกมาเอง ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การโกนหนวดไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือความหนาของเส้นหนวด นั่นหมายความว่า การที่หนวดดูเหมือนจะแข็งขึ้นหลังการโกน เกิดจากความรู้สึกทางผิวสัมผัสมากกว่าการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของหนวด ทำไมหนวดถึงรู้สึกแข็งขึ้น? ปลายคมและตรง:เมื่อหนวดถูกโกน ปลายของหนวดจะเป็นปลายที่คมและตรง ซึ่งเมื่อหนวดเริ่มงอกออกมา มันจะให้ความรู้สึกที่แข็งและหยาบกว่าหนวดที่ยาวแล้ว การเติบโตอย่างรวดเร็...

"จริงไหม! ที่เนื้อคู่จะหน้าตาเหมือนกัน"

  "จริงไหม! ที่เนื้อคู่จะหน้าตาเหมือนกัน"     ความสัมพันธ์ที่สวยงามระหว่างคู่รักมักมีหลายปัจจัยที่เป็นผลมากมาย บางครั้งความคล้ายคลึงกันในเรื่องของลักษณะภายนอกของเนื้อคู่ อาจทำให้เกิดความสงสัยในใจของเราว่ามันเกิดจากอะไร จริงไหม! ที่เนื้อคู่จะหน้าตาเหมือนกัน? เพื่อเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น เราต้องมาพูดถึงภาวะที่เรียกว่า "Mere Exposure Effect" กันครับ 1. Mere Exposure Effect คืออะไร?     Mere Exposure Effect เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเราได้เจอสิ่งนั้นๆ หรือคนนั้นๆ บ่อย ๆ และมีแนวโน้มที่จะมองเห็นในแง่บวกมากขึ้น โดยที่เราไม่รู้สึกตระหนักถึงการเจอเหล่านั้น 2. การทดลองและการวิจัย      การศึกษาทางจิตวิทยาได้พบว่าผู้ที่ได้สัมผัสสิ่งนั้นๆ หรือเจอคนนั้นๆ บ่อย ๆ มักจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา หรือมีการปรับพฤติกรรมต่อเขาในทางที่ดีขึ้น เช่น ถ้าเราเจอคนแปลกหน้า แต่เค้าชื่อเหมือนเรา เราจะมีแนวโน้ม จะรู้สึกคุ้นเคยหรือรู้สึกดีกับเค้าได้มากขึ้น หรือ มีสิ้นค้าอยู่สองตัว ตัวที่เราเห็นบ่อยบ่อย กับอีกตัวที่เราไม่เคยเห็นเลย เราก็จะเลือกตัวที่เราเห็นบ่อย...

ทำไมนักกีฬาถึงวิ่งไม่เหนื่อย

  ทำไมนักกีฬาถึงวิ่งไม่เหนื่อย นักกีฬาบางครั้งสามารถวิ่งได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะเค้าออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็เลยฟิต ซึ่งวันนี้ผมก็จะมาเล่าครับ ว่าความฟิตในนั้นมันเกิดจากอย่างงี้ครับ 1. กล้ามเนื้อแข็งแรง นักกีฬามีการฝึกฝนร่างกายอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้กล้ามเนื้อของพวกเขาเรียบเรียงและแข็งแรงขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถวิ่งได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยมากนัก 2. การฝึกฝนกล้ามเนื้อที่ทนทาน การฝึกฝนแบบต่อเนื่องช่วยเสริมความทนทานของกล้ามเนื้อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้นักกีฬาสามารถทำงานกายภายใต้สภาวะการเคลื่อนไหวที่มีความยากลำบากได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อย 3. ปอดและหัวใจแข็งแรง การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างปอดและหัวใจให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถนำเสนอออกซิเจนและโลหิตไปยังกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักกีฬาสามารถวิ่งได้โดยไม่เหนื่อย 4. โภชนาการที่ถูกต้อง กรดอะมิโนกลุ่ม BCAAs เป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น และช่วยในกระบวนการฟื้นตัวหลังจากการออกกำลังกาย แต่เราไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนกลุ่ม BCAAs ด้วยตัวเองได้ สามารถหากรดอะมิโนกลุ่ม B...